ลงวันที่ 31/03/2564
เข็มนาฬิกากระดิก”00.01น.คืนนี้(1เม.ย.)”เหยียบได้120(ถูกกฎ)
*เฉพาะสาย32ถนนเอเชีย”อยุธยา-อ่างทอง”เท่านั้น!!
*45กม.เลนขวาสปีดไม่เกิน 120และห้ามต่ำกว่า 100
*ย้ำรัวๆๆๆๆๆไม่ใช่ซิ่งได้ทุกเส้นทางทั่วประเทศนะจ๊ะ
*เส้นอื่นยังขับไม่เกิน90รอเซฟตี้พร้อมเพิ่มความเร็วได้
รายงานข่าวจากกรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 1 เม.ย.นี้ (หลังเที่ยงคืนคืนนี้) ผู้ใช้รถส่วนบุคคลสามารถใช้ความเร็วได้สูงสุดไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. ในช่องขวาสุดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) หรือสายบางปะอิน-พยุหะคีรี (ช่วงอยุธยา-อ่างทอง) ระหว่าง กม.4+100-กม.50+000 ทั้งขาเข้าและขาออก รวมระยะทาง 45.9 กม.
ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 26 มี.ค.64 ได้เผยแพร่ประกาศที่ลงนามโดยนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) ในฐานะผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดินเรื่องกำหนดเส้นทางให้ใช้อัตราความเร็วยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดิน
ขณะนี้เส้นทางมีความพร้อม100%ในการรองรับความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กม.ต่อชม.จากกฎหมายเดิมที่ให้ไม่เกิน90กม.ต่อชม. ไม่ว่าจะเป็นด้านกายภาพ ที่ยกเลิกจุดกลับรถระดับพื้นราบ ปรับปรุงจุดกลับรถให้ใช้ทางต่างระดับและใต้สะพาน การติดตั้งป้ายจราจร ป้ายจำกัดความเร็วแต่ละช่องจราจร
รวมถึงป้ายเตือนกำหนดขอบเขตของการเริ่มต้นใช้ความเร็ว120และจุดสิ้นสุดการใช้ความเร็ว120เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังเอาผ้าปิดคลุมไว้ เพราะต้องรอกฎหมายมีผลในวันที่ 1 เม.ย.ก่อนเพื่อป้องกันความสับสนของผู้ใช้ทางขณะเดียวกันได้ติดตั้งป้ายเว้นสองแถบจากคันหน้า เพื่อป้องกันการเบรกกะชั้นชิดจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัยด้วย
ถนนสายนี้มี 8 ช่องจราจรไปกลับด้านละ 4 ช่องกำหนดให้ใช้ความเร็วดังนี้ ช่องซ้ายสุดใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กม.ต่อชม. ให้รถใหญ่เช่นรถบรรทุกวิ่งช่องซ้าย ช่องที่2 และ 3 กำหนดความเร็วไม่เกิน 100 กม.ต่อชม. ส่วนช่องที่ 4 (เลนขวาสุด)ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม.ต่อชม.รวมถึงกำหนดความเร็วขั้นต่ำในช่องขวาสุดนี้ห้ามต่ำกว่า 100 กม.ต่อชม.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าวันที่ 1 เม.ย.64 เวลา 14.00 น. จะเดินทางไปเป็นประธานนำร่อง(คิกออฟ) เปิดให้ประชาชนใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม.ช่องเลนขวาทางหลวงหมายเลข 32 จากนั้นจะนำผลการเปิดบริการรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานรับทราบ จะได้เห็นภาพทั้งหมดว่าการดำเนินงานเป็นอย่างไร และภายในปี 64 จะทยอยเปิดให้ประชาชนใช้ความเร็ว120 กม.ต่อชม.บนถนนเส้นอื่นๆที่มีความพร้อมต่อไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ถนนที่มีความพร้อมรองรับความเร็ว120กม.ต่อชม.ต้องเข้าองค์ประกอบตามกฎกระทรวงใน 3 ข้อ คือ 1.ต้องเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจรขึ้นไป หรือด้านละ 2 ช่อง 2.มีแบริเออร์เกาะกลางถนนกั้นทิศทางการเดินรถ และ 3.ไม่มีจุดกลับรถพื้นราบ
สำหรับรายละเอียดตามที่กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดิน หรือทางหลวงชนบทที่กำหนด พ.ศ. 2564 กำหนดไว้ และผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดินได้ลงนามกำหนดเส้นทาง ได้แก่
รถบรรทุกที่มีน้ำหนักรถเกิน 2,200 กก.หรือรถโดยสารมีที่นั่งคนโดยสารเกิน 15 คน ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กม.ต่อชม.
รถขณะที่ลากจูงรถอื่น รถยนต์สี่ล้อเล็ก หรือรถยนต์สามล้อ ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กม.ต่อชม.
รถจักรยานยนต์ (จยย.) ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม.ต่อชม. เว้นแต่รถจักรยานยนต์ที่มีกำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ขึ้นไป หรือมีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันตั้งแต่ 400 ลูกบาศก์เซนติเมตรขึ้นไปให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 110 กม.ต่อชม.
รถโรงเรียนหรือรถรับส่งนักเรียนให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม.ต่อชม.
รถโดยสารที่มีที่นั่งโดยสารเกิน 7 คนแต่ไม่เกิน 15 คน ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กม.ต่อชม.
รถแทรกเตอร์ รถบดถนน หรือรถใช้งานเกษตรกรรม ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 45 กม.ต่อชม.
และรถอื่นๆ (รถส่วนบุคคลเช่น เก๋ง ปิกอัพ กระบะ ) นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม.ต่อชม.
ทั้งนี้หากรถอยู่ในช่องเดินรถขวาสุด ต้องใช้ความเร็วไม่ต่ำกว่า 100 กม.ต่อชม. เว้นแต่ในกรณีที่ช่องเดินรถนั้น มีข้อจำกัดด้านการจราจรหรือทัศนวิสัย มีสิ่งกีดขวาง หรือมีเหตุขัดข้องอื่น หากในทางเดินรถมีเครื่องหมายจราจรแสดงว่าเป็นเขตอันตราย หรือเขตให้ขับรถช้าๆ ให้ลดความเร็วลง และเพิ่มความระมัดระวังขึ้นตามสมควร และในกรณีที่ทางเดินรถ หรือช่องเดินรถใด มีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วต่ำกว่าอัตราที่กำหนด ให้ใช้ความเร็วไม่เกินอัตราความเร็วที่กำหนดไว้
อ่านโพสต์ที่เกี่ยวข้อง กดลิงก์นะคะ
