f
title
แขวงทางหลวงอ่างทอง
Angthong Highway
แขวงทางหลวงอ่างทองพร้อมมากๆๆรับสปีด 120
ลงวันที่ 04/12/2563
เปิดรหัสความเร็ว80-100-100-เลนขวาสุด120ห้ามต่ำกว่า100
*แขวงทางหลวงอ่างทองพร้อมมากๆๆรับสปีด 120
*เตรียมติดป้ายฟิกซ์ความเร็ว4ช่อง/ตีบั้งกันชนท้าย
*พี่เบิ้มรถบรรทุกคุณลุงคุณป้าขาขับช้าเชิญเลนซ้าย
*แม้นำร่องแค่45.9กม.แต่ช่วยปรับพฤติกรรมขับรถ
นายณัฐพร เนียมกลิ่น ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอ่างทอง กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า แขวงฯได้เตรียมความพร้อมในการใช้ความเร็วไม่เกิน120 กม.ต่อชม. จากเดิมไม่เกิน 90 กม.ต่อชม. บนเส้นทางนำร่องตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมและนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีทล. บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ช่วงบริเวณหมวดทางหลวงบางปะอิน-ทางต่างระดับอ่างทอง กม. ที่ 4+100-50+000 ระยะทาง 45.9 กม.
เนื่องจากเข้าองค์ประกอบใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. ใน 3 ข้อ คือ 1.ต้องเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจรขึ้นไป 2.มีแบริเออร์เกาะกลางถนนกันทิศทางการเดินรถ และ 3.ไม่มีจุดกลับรถพื้นราบ ถนนสายเอเชียในช่วงนี้มีขนาด 8 ช่องไปกลับ คือด้านละ 4 ช่อง ที่ผ่านมาแขวงฯได้ปรับปรุงสภาพทางกายภาพด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมเพื่อรับความเร็วที่เพิ่มขึ้นเสร็จแล้ว โดยปรับปรุงจุดกลับรถ(ยูเทิร์น)พื้นราบให้เป็นจุดกลับรถใต้สะพานและจุดกลับรถบริเวณทางต่างระดับ
นายณัฐพร กล่าวต่อว่า ได้ติดตั้งป้ายเตือน 6 ชุด เรื่องการใช้ความเร็ว รวมไปถึงผลิตป้ายกำกับความเร็วแต่ละช่องทางในช่วง 45.9 กม. ให้ช่องซ้ายสุดใช้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 80 กม.ต่อชม. ให้รถใหญ่เช่นรถบรรทุกวิ่งช่องซ้าย ส่วนช่องที่2 และ 3 กำหนดความเร็วไม่เกิน 100 กม.ต่อชม. ส่วนช่องที่ 4 (เลนขวาสุด) ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. รวมถึงกำหนดความเร็วขั้นต่ำในช่องนี้ห้ามต่ำกว่า 100 กม.ต่อชม.
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือ เลนซ้ายสุดใช้ความเร็วเท่าไหร่ก็ได้แต่ห้ามเกินกว่า 80กม.ต่อชม.เลน2และเลน3จะใช้ความเร็วเท่าไหร่ก็ได้แต่ห้ามเกิน100กม.ต่อชม.สำหรับเลนขวาสุดห้ามใช้ความเร็วต่ำกว่า100กม.ต่อชม.แต่ห้ามเกิน120กม.ต่อชม.
หากกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้จะติดตั้งป้ายได้ทันที ขณะนี้ได้เริ่มทดสอบเพื่อซักซ้อมการติดตั้งป้ายเพื่อเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว บางจุดได้ติดป้ายไปก่อนและใช้ผ้าคลุมไว้ เพื่อรอกฎกระทรวง นอกจากนี้เตรียมตีเส้นเครื่องหมายลูกศร (ลักษณะคล้ายบั้ง) เป็นเส้นเว้นระยะห่างทุกระยะ 50 เมตร เพื่อให้ผู้ขับรถรักษาระยะห่าง ป้องกันอุบัติเหตุจากการชนท้าย หากเบรกกะทันหันจะอยู่ในระยะที่ปลอดภัย
ขณะเดียวกันได้เริ่มประชาสัมพันธ์สร้างความรับรู้และเข้าใจว่า การใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม.ต่อชม. เฉพาะช่วงที่กำหนดไว้คือ 45.9กม.เท่านั้น ไม่ใช่ทั่วประเทศ เนื่องจากต้องปรับปรุงสภาพถนนให้เข้าองค์ประกอบในการใช้ความเร็วที่เพิ่มขึ้นก่อน โดยในส่วนของระยะ(เฟส)ที่ 2 ต้องรองบประมาณปรับปรุงความปลอดภัยถนนสายเอเชีย ช่วงทางต่างระดับอ่างทอง-อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท กม. ที่ 50+000-150+000 ระยะทาง 100 กม.
นายณัฐพร กล่าวด้วยว่า ทล.มีหน้าที่รองรับความพร้อมในการใช้ความเร็ว ส่วนอำนาจการใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฎิบัติตามป้ายที่กำกับความเร็วเป็นของตำรวจทางหลวงและตำรวจท้องที่ ในการดำเนินการอาจบูรณาการการทำงานร่วมกัน เช่น ประสานเรื่องการตั้งด่านหัวท้ายถนนเน้นตักเตือนก่อนในช่วงแรกรวบคู่กับการกวดขันรณรงค์วินัยจราจรด้านอื่นๆ ทั้งนี้ในมุมมองส่วนตัวเห็นว่าการใช้ความเร็วที่เพิ่มขึ้นจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วยตัวบทกฎหมายที่ชัดเจนแม้ว่าที่ผ่านมาตำรวจจะผ่อนผันให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม. ก็ตาม
อีกทั้งจะช่วยควบคุมพฤติกรรมผู้ขับรถให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นคือรถช้าให้ขับซ้าย ส่วนรถเร็วให้ใช้ช่องขวา ซึ่งกำหนดความเร็วขั้นต่ำช่องขวาสุดไม่ต่ำกว่า 100 กม.ต่อชม. ขณะเดียวกันการติดป้ายป้องกันการชนท้าย รวมทั้งแจ้งเตือนความเร็วที่ใช้ จะช่วยควบคุมรวมทั้งช่วยปรับพฤติกรรมผู้ขับขี่ไปในตัวแม้ว่าจะพ้นช่วง 45.9กม.แรก แต่จะเป็นต้นแบบให้ถนนสายอื่นๆ
ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงอ่างทอง มั่นใจด้วยว่า นโยบายเพิ่มความเร็วของผู้บริหารจะสำเร็จตามเป้าหมายคือ ช่วยระบายการจราจรบนท้องถนนได้รวดเร็วขึ้น ช่วยสร้างระเบียบวินัยการขับรถ รวมถึงช่วยลดอุบัติเหตุจากการชนท้าย เนื่องจากปัจจุบันรถวิ่งปะปนกันในความเร็วที่ต่างกัน แม้สังคมบางส่วนอาจมีมุมมองว่าการเพิ่มความเร็วจะเพิ่มอุบัติเหตุ
แต่ส่วนตัวคิดว่าอุบัติเหตุจะลดลง เนื่องจากเดิมถนนสายนี้ มีปริมาณการจราจรเฉลี่ยประมาณ 4 หมื่นคันต่อวัน ช่วงเทศกาลเพิ่มเป็น 8 หมื่น-1 แสนคันต่อวัน ก่อนหน้านี้ที่ยังมีจุดกลับรถพื้นราบเป็นจุดตัดมีปัญหาอุบัติเหตุรายวัน แต่เมื่อยกเลิกจุดตัดจุดกลับรถพื้นราบอุบัติเหตุลดน้อยลงไปมาก
ฝาก like ถูกใจ ???? กด follow ติดตาม ????และกด share ????เพจข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์ ด้วยนะจ๊ะ??

'