f
title
แขวงทางหลวงอ่างทอง
Angthong Highway
นายกฯสั่งเปิดห้องปฏิบัติการตรวจโควิดที่สนามบิน
ลงวันที่ 01/07/2563
นายกฯสั่งเปิดห้องปฏิบัติการตรวจโควิดที่สนามบิน
*คมนาคมเตรียมขนส่งสาธารณะรับเปิดเทอม
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้กรมทางลวง(ทล.) กระทรวงคมนาคม ยกเว้นจัดเก็บค่าผ่านทางทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สาย 7 กรุงเทพฯ – ชลบุรี และสาย 9 วงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก ตั้งแต่เวลา 00.01 ของวันที่ 3 ก.ค.–เวลา 24.00 น.ของวันที่ 8 ก.ค.
เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการเดินทาง ซึ่งทำให้ทล.สูญรายได้จากการเก็บค่าผ่านทางทั้งสิ้นประมาณ 120 ล้านบาท แต่สามารถช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมาเป็นจำนวนมาก
ขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)จะยกเว้นจัดเก็บค่าผ่านทางระหว่างวันที่ 5 – 6 ก.ค. บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) และทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน - ปากเกร็ด)ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาสัมปทานกับเอกชนเรื่องการยกเว้นจัดเก็บค่าผ่านทางช่วงวันหยุดตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ที่ประชุมครม.ยังหารือถึงการเตรียมความพร้อมช่วงเปิดเทอม โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้เตรียมบริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอความต้องการของผู้ใช้บริการ ทั้ง รถไฟฟ้า และรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) รวมถึงพิจารณาจัดตารางการทำงานของข้าราชการให้สอดคล้องกับช่วงเวลาเรียนของบุตรหลานตามนโยบายเหลื่อมเวลาเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะช่วยให้ปัญหาลดลงได้ประมาณ 50% ทั้งการจราจรติดขัดและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนมาตรการคลายล็อคดาวน์การเดินทางเข้ามายังราชอาณาจักรไทยนั้น ตนได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย( กพท.) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด มหาชน หรือทอท. ปฏิบัติตามมาตรฐานสาธารณะสุขเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรสัโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพราะเป็นเรื่องซีเรียส ซึ่งไทยไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมา 36 วันแล้ว
โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าให้จัดทำห้องปฏิบัติการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สนามบิน ซึ่งกระทรวงสาธารณะก็รับปากว่าพร้อมที่จะดำเนินการทันที ดังนั้นในส่วนของทอท.จะจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งกลุ่มแรกน่าจะเป็นภาคธุรกิจ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้เจรจาจับคู่กับประเทศต่างๆที่องค์การอนามัยโลกรับรองว่ามีสถิติการป้องกันไวรัสโควิด-19 ใกล้เคียงกับไทย ก่อนจะให้มีการเดินทางเข้ามายังไทยเป็นเที่ยวแรกได้

'